นักลงทุนที่มาประเทศไทยมาจากประเทศใดบ้าง?

นักลงทุนที่มาประเทศไทยมาจากประเทศใดบ้าง?

ประเทศไทยดึงดูดนักลงทุนจำนวนมากจากทั่วโลกด้วยสภาพภูมิอากาศแบบเขตร้อน ธรรมชาติอันงดงาม และวัฒนธรรมอันรุ่มรวย โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่มอบโอกาสที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนต่างชาติ ในบทความนี้ เราจะกล่าวถึงประเทศที่นักลงทุนซื้อบ้านในประเทศไทย รวมถึงจำนวนผู้ซื้อ

1. ความน่าดึงดูดของตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย

ประเทศไทยมอบโอกาสมากมายสำหรับนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านแหล่งท่องเที่ยวและเมืองที่กำลังพัฒนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งภูมิภาคต่างๆ เช่น ภูเก็ต พัทยา กรุงเทพฯ และเชียงใหม่ ล้วนเป็นภูมิภาคที่ดึงดูดความสนใจของผู้ซื้อชาวต่างชาติ จากข้อมูลปี 2566 พบว่าประมาณ 30% ของยอดขายอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยมาจากนักลงทุนต่างชาติ

2. ประเทศนักลงทุนและสถิติการซื้อขาย

นักลงทุนต่างชาติที่ซื้ออสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยส่วนใหญ่มาจากประเทศต่อไปนี้:

จีน

จีนมีสัดส่วน 30% ของการซื้ออสังหาริมทรัพย์จากต่างชาติในประเทศไทย นักลงทุนชาวจีนให้ความสนใจเป็นพิเศษกับที่อยู่อาศัยระดับหรูและบ้านพักตากอากาศ มีการซื้อบ้านประมาณ 5,000 หลังในปี 2565

มาเลเซีย

นักลงทุนชาวมาเลเซียมีสัดส่วน 10% ของการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย โดยทั่วไปแล้วนักลงทุนจะมุ่งเน้นไปที่โครงการที่อยู่อาศัยราคาประหยัด โดยมียอดซื้อบ้านประมาณ 1,500 หลังในปี 2565

สิงคโปร์

นักลงทุนชาวสิงคโปร์คิดเป็น 8% ของการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย โดยทั่วไปแล้วนักลงทุนจะมุ่งเน้นไปที่อสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์และที่อยู่อาศัยคุณภาพสูง โดยมียอดซื้อบ้านประมาณ 1,000 หลังในปี 2565

ออสเตรเลีย

นักลงทุนชาวออสเตรเลียคิดเป็น 7% ของการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย พวกเขาซื้อบ้านประมาณ 800 หลังในปี 2565 พวกเขาชอบประเทศไทย โดยเฉพาะการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์เพื่อการเกษียณอายุ

อินเดีย

นักลงทุนจากอินเดียคิดเป็น 6% ของตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย โดยทั่วไปพวกเขาซื้ออสังหาริมทรัพย์สำหรับวันหยุดพักผ่อนและอพาร์ตเมนต์ให้เช่า พวกเขาซื้อบ้านประมาณ 700 หลังในปี 2565

ประเทศอื่นๆ

นักลงทุนจากประเทศต่างๆ เช่น ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา และเยอรมนี คิดเป็น 20% ของยอดซื้อทั้งหมด นักลงทุนจากประเทศเหล่านี้มักซื้ออสังหาริมทรัพย์ระดับหรูด้วยงบประมาณที่สูงกว่า

3. ความต้องการของนักลงทุน

โดยทั่วไปแล้ว นักลงทุนต่างชาติที่ซื้ออสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยจะพิจารณาจากเกณฑ์ต่อไปนี้:

  • วัตถุประสงค์การลงทุน: โดยทั่วไปแล้ว นักลงทุนจะพิจารณาการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบบ้านพักตากอากาศ อสังหาริมทรัพย์ให้เช่า หรือการลงทุนระยะยาว
  • ทำเลที่ตั้ง: ผู้ซื้อชาวต่างชาติมักนิยมซื้ออสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ยอดนิยม เช่น ภูเก็ต พัทยา และกรุงเทพฯ ราคาที่อยู่อาศัยในพื้นที่เหล่านี้กำลังเพิ่มสูงขึ้น
  • ประเภทโครงการ: โดยทั่วไปแล้ว นักลงทุนต่างชาติมักสนใจโครงการต่างๆ เช่น ที่อยู่อาศัยระดับหรู รีสอร์ท และอพาร์ตเมนต์

4. อนาคตของตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย

ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยกำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเติบโตของภาคการท่องเที่ยว ความสนใจของนักลงทุนต่างชาติจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและศักยภาพด้านการท่องเที่ยวของประเทศ

  • ศักยภาพผลตอบแทนสูง: การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยมอบรายได้จากค่าเช่าที่สูงและมูลค่าที่เพิ่มขึ้นให้กับนักลงทุน
  • สิทธิประโยชน์จากรัฐบาล: รัฐบาลไทยมีสิทธิประโยชน์และความสะดวกสบายมากมายเพื่อสนับสนุนนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยเพิ่มความสนใจของนักลงทุน

สรุป:

ประเทศไทยมีตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ดึงดูดความสนใจของนักลงทุนจากทั่วโลก ประเทศต่างๆ เช่น จีน มาเลเซีย และสิงคโปร์ มีส่วนแบ่งที่สำคัญในการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย สำหรับนักลงทุนชาวตุรกี ประเทศไทยยังโดดเด่นในฐานะตลาดที่มีราคาซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่น่าสนใจและศักยภาพผลตอบแทนสูงอีกด้วย นักลงทุนสามารถคว้าโอกาสในการลงทุนที่สร้างผลกำไรได้โดยการประเมินโอกาสต่างๆ ที่ประเทศไทยนำเสนอ

ผู้เขียน
Mehmet Akçay

Hello, I am Mehmet Emre Akçay. I graduated from Vienna Technical University and took part in many exciting architectural projects in Turkey. I have worked in management and application areas on construction sites for many years, experiencing every stage of the construction process. Architecture is a passion for me.

I work within World of Condos to provide the best aesthetic and functional solutions to our investors. With sale and rental house options in Bangkok, Pattaya and Phuket regions of Thailand, we continue to develop architectural and interior design solutions specific to the needs of our investors.

0 Comments:

Whatsapp Instagram Facebook Youtube