ข้อดีของการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยไม่ได้จำกัดอยู่แค่การเพิ่มมูลค่าอสังหาริมทรัพย์เท่านั้น อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทและเงินยูโรยังเปิดโอกาสอันดีสำหรับนักลงทุนต่างชาติอีกด้วย
ณ ปี พ.ศ. 2566 สมมติว่ามีการซื้ออสังหาริมทรัพย์มูลค่า 100,000 บาทในประเทศไทย ปีที่แล้ว มูลค่าเงินบาทต่อเงินยูโรอยู่ที่ 0.027 ยูโร ในขณะที่ปัจจุบันอยู่ที่ 0.031 ยูโร ตลาดแลกเปลี่ยนนี้มอบโอกาสสำคัญให้กับนักลงทุน
• ปี 2022: 100,000 บาท x 0.027 ยูโร = 2,700 ยูโร
• ปี 2023: 100,000 บาท x 0.031 ยูโร = 3,100 ยูโร
• เพิ่มขึ้น: 3,100 ยูโร - 2,700 ยูโร = กำไร 400 ยูโร
• เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง: 4002700×100≈14.81%\frac{400}{2700} \times 100 \approx 14.81\%2700400×100≈14.81%
กำไร 14.81% ที่เกิดขึ้นในแต่ละปีเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้การซื้ออสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยน่าสนใจสำหรับนักลงทุนชาวตุรกี ความผันผวนระหว่างเงินยูโรและเงินบาทเพิ่มโอกาสที่นักลงทุนจะเพิ่มรายได้จากอัตราแลกเปลี่ยน
มูลค่าของเงินบาทต่อเงินยูโรอยู่ที่ประมาณ 0.023 ยูโรในปี 2564 ในกรณีนี้:
• ปี 2564: 100,000 บาท x 0.023 ยูโร = 2,300 ยูโร
• ปี 2566: 100,000 บาท x 0.031 ยูโร = 3,100 ยูโร
• รายได้รวม:
• 3,100 ยูโร - 2,300 ยูโร = 800 ยูโร
• การเปลี่ยนแปลงเป็นเปอร์เซ็นต์: 8002300×100≈34.78%\frac{800}{2300} \times 100 \approx 34.78\%2300800×100≈34.78%
การเพิ่มขึ้น 34.78% นี้แสดงให้เห็นว่ารายได้ที่จะได้รับจากเงินยูโรก็มีนัยสำคัญเช่นกัน นักลงทุนชาวตุรกีที่ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยมีโอกาสได้รับประโยชน์จากทั้งมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นและรายได้จากอัตราแลกเปลี่ยน
ข้อดีของการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยไม่ได้จำกัดอยู่แค่มูลค่าอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น อัตราแลกเปลี่ยนระหว่างเงินบาทและเงินยูโรยังเปิดโอกาสอันดีสำหรับนักลงทุนต่างชาติ
ตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังเติบโตในประเทศไทยยังเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในรูปเงินยูโรอีกด้วย นักลงทุนต่างชาติอาจพิจารณาลงทุนในประเทศไทยเพื่อคว้าโอกาสเหล่านี้